เธอบวชแล้วอย่างนี้ เพื่อนสพรหมจารีตักเตือนพร่ำสอนว่า “ท่านพึง ก้าวไปอย่างนั้น พึงถอยกลับอย่างนี้ พึงแลดูอย่างนี้ พึงเหลียวอย่างนี้ พึงคู้เข้าอย่างนี้ พึงเหยียดออกอย่างนี้ พึงครองสังฆาฏิ บาตร และจีวร อย่างนี้”
เธอคิดอย่างนี้ว่า “เมื่อก่อนเราเป็นคฤหัสถ์ มีแต่จะตักเตือนสั่งสอนผู้อื่น ก็ภิกษุเหล่านี้มีอายุคราวลูกคราวหลานของเรา ยังจะมาตักเตือนพร่ำสอนเรา” เธอขุ่นเคืองไม่พอใจ จึงบอกคืนสิกขากลับมาเป็นคฤหัสถ์ ความโกรธและความคับแค้นใจนี้แล ชื่อว่า ภัยจากคลื่น
อูมิภยสูตร, องฺ.จตุกฺก.๒๑/๑๒๒/๑๘๔.
กุลบุตรบางคน ในโลกนี้มีศรัทธาออกบวชจากเรือนเป็นบรรพชิต...เธอบวชแล้วอย่างนี้ เพื่อนสพรหมจารีตักเตือนพร่ำสอนว่า “สิ่งนี้ท่านควรฉัน สิ่งนี้ไม่ควรฉัน สิ่งนี้ควรบริโภค สิ่งนี้ไม่ควรบริโภค สิ่งนี้ควรลิ้ม สิ่งนี้ไม่ควรลิ้ม สิ่งนี้ควรดื่ม สิ่งนี้ไม่ควรดื่ม สิ่งเป็นกัปปิยะ(สิ่งที่พระพุทธเจ้าทรงอนุญาต ให้ภิกษุใช้หรือฉันได้) ท่านควรฉัน สิ่งเป็นอกัปปิยะ(สิ่งที่พระพุทธเจ้าไม่ทรงอนุญาตให้ภิกษุใช้หรือฉัน) ท่านไม่ควรฉัน....
เธอคิดอย่างนี้ว่า “เมื่อก่อนเราเป็นคฤหัสถ์ ต้องการสิ่งใดก็เคี้ยวกินสิ่งนั้น ไม่เคี้ยวกินสิ่งที่ไม่ต้องการ...กินทั้งสิ่งที่เป็นกัปปิยะและอกัปปิยะ...กินทั้งในเวลาและนอกเวลา...สิ่งใดที่ประณีตไม่ว่าจะเป็นของเคี้ยวหรือของบริโภค ที่คหบดีผู้มีศรัทธาถวายแก่เราทั้งในเวลากลางวันและในเวลาวิกาล ภิกษุ เหล่านี้ทำเหมือนปิดปากของเราแม้ในของเหล่านั้น” เธอขุ่นเคืองไม่พอใจ จึงบอกคืนสิกขากลับมาเป็นคฤหัสถ์ ความเป็นผู้เห็นแก่ปากท้องนี้แล ชื่อว่า ภัยจากจระเข้
No comments:
Post a Comment