Tuesday, March 10, 2009

จีวรที่ลุกเป็นไฟ

“ภิกษุทั้งหลาย เธอจักตัดสินความเรื่องนี้อย่างไร ระหว่างการที่บุรุษ ผู้มีกำลังเอาแผ่นเหล็กร้อนลุกเป็นไฟมานาบกาย กับการใช้สอยจีวรที่เขา ถวายด้วยศรัทธา อย่างไหนจะประเสริฐกว่ากัน”

“ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ การใช้สอยจีวรที่เขาถวายด้วยศรัทธานั่นแหละประเสริฐกว่า เพราะการที่บุรุษผู้มีกำลังเอาแผ่นเหล็กร้อนลุกเป็นไฟมานาบกาย นั่นเป็นความทุกข์ ทนได้ยาก พระพุทธเจ้าข้า”

“ภิกษุทั้งหลาย เราขอเตือนพวกเธอ การที่บุคคลผู้ทุศีล มีธรรมเลวทราม ไม่สะอาด มีความประพฤติที่ตนเองนึกแล้วก็กินแหนงตัวเอง มีการกระทำที่ต้องปกปิดซ่อนเร้น ไม่ใช่สมณะแต่ปฏิญญาว่าเป็นสมณะ ไม่ใช่ผู้ประพฤติพรหมจรรย์แต่ปฏิญญาว่าเป็นผู้ประพฤติพรหมจรรย์ เป็นคนเน่าใน ชุ่มด้วยราคะ หมักหมมเหมือนบ่อที่เทหยากเยื่อ ใช้สอยจีวรที่เขาถวายด้วยศรัทธา จะประเสริฐอะไร การที่บุรุษผู้มีกำลังเอาแผ่นเหล็กร้อนลุกเป็นไฟมานาบกายยังจะดีเสียกว่า

ข้อนั้นเพราะเหตุไร เพราะเขาจะพึงตายหรือทุกข์ปางตายด้วยเหตุที่ถูกนาบกายด้วยแผ่นเหล็กร้อนลุกเป็นไฟก็จริงอยู่ แต่หลังจากตายแล้ว เขาจะ ไม่ไปเกิดในอบาย ทุคติ วินิบาต นรก

ส่วนการที่บุคคลผู้ทุศีล มีธรรมเลวทราม ไม่สะอาด ฯลฯ แล้วยังคิด นุ่งห่มจีวรที่เขาถวายมาด้วยศรัทธา ย่อมเป็นไปเพื่อความทุกข์ ไม่เกื้อกูลแก่เขาตลอดกาลนาน และหลังจากตายแล้ว เขายังต้องไปเกิดในอบาย ทุคติ วินิบาต นรกอีก”

อัคคิกขันโธปมสูตร, องฺ.สตฺตก.๒๓/๗๒/๑๖๑.

No comments: