ดูก่อนมิคชาละ รูปที่จะพึงรู้แจ้งทางตา ...เสียงที่จะพึงรู้แจ้งทางหู ...กลิ่นที่จะพึงรู้แจ้งทางจมูก ...รสที่จะพึงรู้แจ้งทางลิ้น ...โผฏฐัพพะที่จะพึงรู้แจ้งทางกาย ...ธรรมารมณ์ที่จะพึงรู้แจ้งทางใจ อันน่าปรารถนา น่าใคร่ น่าพอใจ น่ารัก ชักให้ใคร่ พาใจให้กำหนัดมีอยู่ ถ้าภิกษุยินดี กล่าวสรรเสริญ หมกมุ่นรูป...เสียง...กลิ่น...รส...โผฏฐัพพะ...ธรรมารมณ์นั้นอยู่ ย่อมเกิดความเพลิดเพลิน เมื่อมีความเพลิดเพลิน ก็มีความกำหนัดกล้า เมื่อมีความ กำหนัดกล้า ก็มีความเกี่ยวข้อง ภิกษุผู้ประกอบด้วยความเพลิดเพลิน และความเกี่ยวข้อง เราเรียกว่า มีปกติอยู่กับเพื่อน
ดูก่อนมิคชาละ ภิกษุผู้มีปกติอยู่ด้วยอาการอย่างนี้ ถึงจะอยู่ในเสนาสนะอันสงัด ที่เป็นป่าโปร่งและป่าทึบอันเงียบสงัด ไม่อื้ออึง ปราศจากการสัญจรไปมาของผู้คน ควรเป็นที่ทำการลับของมนุษย์ สมควรเป็นที่หลีกเร้นก็จริง ถึงอย่างนั้น ก็ยังเรียกว่ามีปกติอยู่กับเพื่อน ข้อนั้นเพราะเหตุไร เพราะผู้นั้น ยังมีตัณหาเป็นเพื่อน เขายังละตัณหานั้นไม่ได้ ฉะนั้นจึงเรียกว่า มีปกติ อยู่กับเพื่อน
ปฐมมิคชาลสูตร, สํ.สฬา.๑๘/๖๓/๕๓.
No comments:
Post a Comment