Sunday, April 5, 2009

พระแท้แต่ปางก่อน

ภิกษุทั้งหลายแต่ปางก่อน เป็นผู้สันโดษด้วยปัจจัยตามมีตามได้ นุ่งห่มผ้าเป็นปริมณฑล ก็เพียงเพื่อจะป้องกันความหนาวและลม และปกปิดความละอายเท่านั้น

ภิกษุทั้งหลายแต่ปางก่อน ขบฉันอาหารประณีตก็ตาม เศร้าหมองก็ตาม น้อยก็ตาม มากก็ตาม ก็เพื่อยังอัตภาพให้เป็นไปเท่านั้น ไม่ติดไม่พัวพันเลย

ภิกษุทั้งหลายแต่ปางก่อน (แม้จะถูกความเจ็บไข้ครอบงำ) ไม่ขวนขวายหาเภสัชปัจจัยอันเป็นบริขารแห่งชีวิต เหมือนการขวนขวายหาความสิ้นไป แห่งอาสวะทั้งหลาย ท่านเหล่านั้นขวนขวายพอกพูนวิเวก มุ่งแต่เรื่องวิเวก อยู่ในป่า โคนไม้ ซอกเขาและถ้ำเท่านั้น

ภิกษุทั้งหลายแต่ปางก่อนเป็นผู้อ่อนน้อม มีศรัทธาตั้งมั่นเลี้ยงง่าย อ่อนโยน มีน้ำใจไม่กระด้าง ไม่ถูกกิเลสรั่วรด ปากไม่ร้าย เปลี่ยนแปลงตามความคิดอันเป็นประโยชน์ของตนแลผู้อื่น

เพราะเหตุนั้น ภิกษุแต่ปางก่อนเป็นผู้มีข้อปฏิบัติในการก้าวไปข้างหน้า ถอยกลับ การบริโภคปัจจัย การซ่องเสพโคจร และมีอิริยาบถละมุนละไม ก่อให้เกิดความเลื่อมใส เหมือนสายน้ำมันไหลออกไม่ขาดสายฉะนั้น
ปาราสริยเถรคาถา, ขุ.เถร.๒๖/๙๒๒-๙๒๗/๔๙๑-๔๙๒

No comments: