Thursday, January 15, 2009

กอดกองไฟยังประเสริฐกว่า

“ภิกษุทั้งหลาย เธอเห็นกองไฟใหญ่โน้นที่กำลังลุกโชนโชติช่วงอยู่ หรือไม่”

“เห็น พระพุทธเจ้าข้า” ...

“ภิกษุทั้งหลาย เราขอเตือนพวกเธอ การที่บุคคลผู้ทุศีล มีธรรมเลวทราม ไม่สะอาด มีความประพฤติที่ตนเองนึกแล้วก็กินแหนงตัวเอง มีการกระทำที่ต้องปกปิดซ่อนเร้น ไม่ใช่สมณะแต่ปฏิญญาว่าเป็นสมณะ ไม่ใช่ผู้ประพฤติพรหมจรรย์แต่ปฏิญญาว่าเป็นผู้ประพฤติพรหมจรรย์ เป็นคนเน่าใน ชุ่มด้วยราคะ หมักหมมเหมือนบ่อที่เทหยากเยื่อ เข้าไปนั่งกอดหรือนอนกอดหญิงสาวผู้มีฝ่ามือและเท้าอ่อนนุ่ม จะประเสริฐอะไร การเข้าไปนั่งกอดหรือนอนกอดกองไฟใหญ่โน้นที่กำลังลุกโชนโชติช่วงอยู่ นั่นยังจะดีเสียกว่าดี

ข้อนั้นเพราะเหตุไร เพราะเขาจะพึงตายหรือทุกข์ปางตายด้วยเหตุที่ เข้าไปนั่ง กอดหรือนอนกอดไฟใหญ่ก็จริงอยู่ แต่หลังจากตายแล้ว เขาก็จะ ไม่ไปเกิดในอบาย ทุคติ วินิบาต นรก เพราะการเข้าไปนั่งกอดหรือนอนกอดกองไฟนั้นเป็นเหตุ

ส่วนการที่บุคคลผู้ทุศีล มีธรรมเลวทราม ไม่สะอาด ฯลฯ เข้าไปนั่งกอดหรือนอนกอดหญิงสาวผู้มีฝ่ามือและเท้าอ่อนนุ่ม ย่อมเป็นไปเพื่อความทุกข์ ไม่เกื้อกูลแก่เขาตลอดกาลนาน และหลังจากตายแล้ว เขาย่อมไปเกิดในอบาย ทุคติ วินิบาต นรก”

อัคคิกขันโธปมสูตร, องฺ.สตฺตก.๒๓/๗๒/๑๕๘.

No comments: