Tuesday, May 5, 2009

โอวาท ทำพระนิพพานให้แจ้ง

เมื่อลูกได้บวชเป็นพระแล้ว ต้องมีวัตถุประสงค์เดียวเป็นหลัก คือทำพระนิพพานให้แจ้ง นอกนั้นเป็นเรื่องปลีกย่อยรองลงมา สิ่งนี้ต้องอยู่ในใจ ของลูกทุกรูป ถ้าไม่มีสิ่งนี้ บวชเป็นพระยากนะลูกนะ

๗ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๔๔


After you have ordained, you must have one objective: to attain Nibbana. Beyond this, other aims are secondary. It must be in every one of your hearts. If you do not have this goal, being a monk will be difficult.

7 October 2001

พุทธปัจฉิมโอวาท

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บัดนี้ เราขอเตือนเธอทั้งหลายว่า สังขารทั้งหลายมีความเสื่อมไปเป็นธรรมดา เธอทั้งหลายจงทำประโยชน์ตนและประโยชน์ ผู้อื่นให้ถึงพร้อมด้วยความไม่ประมาทเถิด

มหาปรินิพพานสูตร, ที.ม.๑๐/๒๑๘/๑๑๖.

ผู้ปรารภความเพียร

ท่านพระสารีบุตร ถามท่านพระมหาโมคคัลลานะว่า “ท่านได้ สนทนาธรรมกับพระผู้มีพระภาคว่าอย่างไร”

ท่านพระมหาโมคคัลลานะตอบว่า “ข้าพเจ้าได้ทูลถามพระผู้มีพระภาคดังนี้ว่า ‘ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ที่พระองค์ตรัสว่า ‘ผู้ปรารภความเพียร ผู้ปรารภความเพียร’ ด้วยเหตุเท่าไรหนอ ภิกษุจึงชื่อว่าเป็นผู้ปรารภความเพียร’ เมื่อข้าพเจ้าทูลถามอย่างนี้ แม้พระผู้มีพระภาคได้ตรัสกับข้าพเจ้าว่า ‘โมคคัลลานะ ภิกษุในธรรมวินัยนี้ เป็นผู้ปรารภความเพียรด้วยตั้งสัตยาธิษฐานว่า ‘จะเหลืออยู่แต่หนัง เอ็น และกระดูกก็ตามที เลือดและเนื้อในร่างกายจงเหือดแห้งไปเถิด ผลอันใดที่จะพึงบรรลุได้ด้วยเรี่ยวแรงของบุรุษ ด้วยความเพียรของบุรุษ ด้วยความบากบั่นของบุรุษ ถ้ายังไม่บรรลุผลนั้นแล้วก็จักไม่หยุดความเพียร’ โมคคัลลานะ ภิกษุย่อมเป็นผู้ปรารภความเพียรอย่างนี้’ ข้าพเจ้าได้สนทนาธรรมกับพระผู้มีพระภาคอย่างนี้...”

ฆฏสูตร, สํ.นิ. ๑๖/๒๓๗/๓๒๘.